หนังตาตก หางตาตก แก้ไขอย่างไร ?

หนังตาตก หางตาตก แก้ไขอย่างไร? 

หนังตาตก หางตาตก ?

หนังตาตก หางตาตก แก้ไขอย่างไร? คืนความสดใสให้ดวงตา ด้วยวิธีที่เหมาะกับคุณ

สาเหตุของหนังตาตก หางตาตก

• ความเสื่อมตามวัย: เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและกล้ามเนื้อรอบดวงตาจะเริ่มหย่อนคล้อยลง ทำให้เปลือกตาและหางตาตกลงมา

• โรคทางระบบประสาท: เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคเนื้องอกในสมอง หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิด Myasthenia Gravis (MG)

• พันธุกรรม: บางคนมีแนวโน้มที่จะมีหนังตาตกหรือหางตาตกตั้งแต่กำเนิด

• ปัจจัยอื่นๆ: เช่น การบาดเจ็บที่ดวงตา ภาวะภูมิแพ้ การอักเสบ หรือการใช้ยาบางชนิด

อาการของหนังตาตก หางตาตก

• หนังตาบนตกลงมาปิดลูกตาดำมากกว่าปกติ

• หางตาตกลง ทำให้ดวงตาดูเศร้าหมอง

• รู้สึกว่าลืมตาได้ไม่สุด

• ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าผากช่วยยกคิ้วเพื่อลืมตา

• ปวดศีรษะจากการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าผาก

• ตาพร่ามัว หรือเห็นภาพซ้อน (ในบางราย)

วิธีรักษาหนังตาตก หางตาตก

• ยาหยอดตา: ในกรณีที่หนังตาตกเกิดจากโรค Myasthenia Gravis แพทย์อาจจ่ายยาหยอดตาเพื่อช่วยบรรเทาอาการ

• แว่นตาที่มีที่ยกเปลือกตา (Ptosis crutch): เป็นแว่นตาที่มีลักษณะพิเศษ ช่วยยกเปลือกตาขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับการผ่าตัดได้

• การบริหารกล้ามเนื้อตา: แพทย์อาจแนะนำท่าบริหารกล้ามเนื้อตา เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

• การร้อยไหม: เป็นการยกกระชับผิวบริเวณรอบดวงตาด้วยไหมละลาย ช่วยให้หางตาดูยกขึ้นและลดความหย่อนคล้อยของผิวหนัง

• การฉีดโบท็อกซ์: เป็นการฉีดสาร Botulinum Toxin A เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากและระหว่างคิ้ว ซึ่งอาจช่วยให้หางตาดูยกขึ้นได้

• การผ่าตัดยกกระชับกล้ามเนื้อตา (Levator Advancement): เหมาะสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

• การผ่าตัดเย็บกล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis Sling Surgery): เหมาะสำหรับผู้ที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมาก

• การผ่าตัดเอาหนังตาส่วนเกินออก (Blepharoplasty): เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาหย่อนคล้อยมาก

การดูแลหลังการรักษา

• ประคบเย็น: เพื่อลดอาการบวมและช้ำ

• ทำความสะอาดแผล: ตามคำแนะนำของแพทย์

• หลีกเลี่ยงการขยี้ตา: เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

• พักผ่อนให้เพียงพอ: เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

• ไปพบแพทย์ตามนัด: เพื่อติดตามผลการรักษา

สรุป หนังตาตก หางตาตก แก้ไขอย่างไร?